ส่วนหนึ่งของกองทหารซิกข์ของกองทัพอังกฤษอินเดียที่โพสต์ที่ป้อม Gulistan ตามแนวชายแดนอินเดียอัฟกัน เจ้าหน้าที่อังกฤษอิจฉาเขาเพราะทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าของเขาและคิดว่าชาวอินเดียนแดงตัวน้อยคิดว่าพวกเขาเป็นคนขี้ขลาด ในขณะที่เพิ่งกลับมาจากการลาดตระเวนชายแดนกองทหารเห็นกลุ่มชาวอัฟกันที่นำโดยมัลลาห์ชื่อซัลดัลลาห์พยายามฆ่าผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานที่แต่งงานแล้วซึ่งไม่ยอมรับการแต่งงานที่ถูกบังคับ Ishar Singh เข้าแทรกแซงต่อสู้เผ่าและช่วยหญิงสาวโดยการฆ่าสามีของเธอดังนั้นจึงไม่เชื่อฟังหัวหน้าของเขาทันที เมื่อกองทหารมาถึงป้อมฐานเจ้าหน้าที่อังกฤษรายงานการไม่เชื่อฟังของอิสฮาร์ซิงห์ต่อผู้บังคับบัญชาของเขาซึ่งนั่งอยู่ที่ป้อมล็อกฮาร์ตใกล้เคียง ชาวอัฟกันโจมตีจากป้อมกูลิสถาน แต่หยุดโดยอิสฮาร์ซิงห์ผู้ต่อสู้อย่างกล้าหาญสังหารชาวอัฟกันหลายคน เขาถูกลงโทษและย้ายไปยังป้อม Saragarhi ที่ตั้งอยู่ระหว่าง Gulistan และป้อม Lockhart และเปิดใช้งานการสื่อสารระหว่างพวกเขา

หน่วยรบพิเศษ 12 คน ที่ได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลสหรัฐเพื่อปฏิบัติการลับสุดยอดในอัฟกานิสถานในช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์วินาศกรรมช็อคโลกที่นิวยอร์ค ในวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 เพียงไม่กี่วัน โดยหน้าที่ของพวกเขาคือ ลักลอบเขาไปในดินแดนที่ปกครองโดย กลุ่มตาลีบันที่เชื่อกันว่าให้การสนับสนุนองค์การก่อการร้าย อัลเคดาห์ ที่นำโดยโอซามาบินลาเดน เพื่อประสานกับกลุ่มพันธมิตรทางเหนือในการทำสงครามภาคพื้นดินกับฝ่ายตาลีบัน ก่อนที่ รัฐบาลอเมริกาจะปฏิบัติการปูพรมทางอากาศต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เต็มไปด้วยภูเขา พวกเขาจำต้องใช้ยุทธวีธีการรบแบบโบราณนั่นคือการใช้ม้าในการเดินทางผ่านเขตของศัตรู เพื่อยึดมาซาร์ อี ชารีฟ ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มพันธมิตรทางเหนือ คืนมาจากกลุ่มตาลีบันให้ได้ นี่จึงกลายเป็นที่มาของวีกรรมที่โลกลืมของเหล่านักรบบนหลังม้าทั้ง 12 คน

บอกเล่าเรื่องราวในยุคโชซอนเมื่อ องค์รัชทายาท อีชาง (รับบทโดย จูจีฮุน) สงสัยถึงอาการป่วยขององค์พระราชา เมื่อพระมเหสีไม่อนุญาตให้องค์รัชทายาทเข้าไปในตำหนักของพระราชบิดาของพระองค์เอง องค์รัชทายาทจึงตัดสินใจปลอมตัวออกไปนอกพระราชวัง และพยายามค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังอาการป่วยของพระราชบิดา ในขณะเดียวกันก็ได้พบว่าเกิดโรคประหลาดกำลังแพร่กระจายจนทำให้คนกลายเป็นอสูรกาย พระองค์จึงร่วมมือกับ ซอบี (รับบทโดย แบดูนา) แพทย์สาวสามัญชนที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านจากเรื่องราวร้ายแรงครั้งนี้ และนอกจากนี้องค์ราชทายาทยังต้องต่อสู้กับ โจฮักจู (รับบทโดย รยูซึงรยง) ข้าหลวงในพระราชวังที่คอยชักใยแผนการชั่วร้ายเพื่อจะได้มาซึ่งอำนาจเหนือกว่าราชวงศ์

เมื่อปี 1905 โทมัส ริชาร์ดสันเดินทางไปยังเกาะห่างไกลเพื่อตามหาน้องสาวที่ถูกกลุ่มลัทธิปริศนาลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ แต่หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มลิทธินี้ก็ได้รู้ว่าตัวเองพลาดท่าอย่างจังที่กระตุกหนวดเสือ เพราะเขาเริ่มล่วงรู้ความลับและความหลอกลวงมากขึ้นเรื่อยๆ จนสาวไปถึงต้นตอของลัทธิเข้าให้

เรื่องราวประวัติศาสตร์ของอัครฑูตเปาโล ผู้ข่มเหงคริสเตียนอย่างหนักจากความเชื่อยิวของตนแต่เมื่อการได้พบกับพระเยซู ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

ภาพยนตร์ดราม่าเขย่าขวัญเรื่องราวของไมเคิล (ธีโอ เจมส์) หนุ่มไฟแรงที่เพิ่งได้งานในฝันคือเป็นผู้ประสานงานโปรเจคต์โปรแกรม Oil for Food ของสหประชาชาติ เขาถูกส่งไปที่อิรักหลังยุคสงครามที่ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐและประเทศหิวอำนาจจ้องจะหุบคลังน้ำมันสำรองของอิรัก ไม่ต่างกับสัตว์ร้ายจ้องจะตะขรุบเหยื่อ คนเดียวที่พอใช้คำแนะนำเขาได้คือ ปาชา (เบน คิงสลีย์) เจ้านายของเขา นักการทูตมากประสบการณ์ ยิ่งเขาเรียนรู้มากเท่าไหร่ ไมเคิลยิ่งตระหนักได้ว่ามันมีการสมคบคิดกันในระดับสูง ทางเดียวที่จะหลุดพ้นได้เขาต้องเปิดโปงคนพวกนั้น เขาต้องเอาอาชีพของเจ้านายมาเสี่ยง รวมถึงชีวิตตัวเองและคนรักด้วย

22 กรกฎาคม วันมหาโหด เป็นผลงานของ พอล กรีนกราส ผู้ผลิตภาพยนตร์ระดับรางวัลออสการ์ (จาก กัปตัน ฟิลลิป ฝ่านาทีพิฆาตโจรสลัดระทึกโลก และ ดิ่งนรก 11 กันยา ) ที่นำเสนอเรื่องจริงจากควันหลงหลังเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประเทศนอร์เวย์ ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2011 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 77 รายหลังจากที่ผู้ก่อการร้ายจากกลุ่มขวาจัดคนหนึ่งจุดระเบิดคาร์บอมบ์ในกรุงออสโลก่อนกราดยิงนักเรียนในค่ายผู้นำเยาวชน 22 กรกฎาคม วันมหาโหด ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางและห้วงอารมณ์ผ่านมุมมองของเหยื่อผู้รอดชีวิตสู่เส้นทางการฟื้นฟูเยียวยาและการปรองดองของประเทศ

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติขายดีของมอตลีย์ ครูว โดยเล่าเรื่องราวความสำเร็จและความบ้าบิ่นของหนุ่มห่ามสี่คนที่ผงาดขึ้นจากวงร็อคเล็กๆ ริมทางฮอลลีวูดสู่ความโด่งดังกระฉ่อนโลก